พี่เลี้ยงเด็กเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดและมีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดและทัศนคติของ เด็กมาก เป็นอันดับสองรองมาจากคุณพ่อคุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ดูแลเด็ก ซึ่งแท้จริงแล้ว เด็กเปรียบเสมือนต้นอ่อนซึ่งต้องการการบ่มเพาะ การดูแล การสนับสนุน และการชี้นำ อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับวัยและพฤติกรรมเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน จากความสำคัญของพี่เลี้ยงเด็กที่กล่าวข้างต้น พี่เลี้ยงเด็กทุกคนจึงได้รับการฝึกอบรมทั้งทางด้านทักษะการดูแล กิจวัตรประจำวันของเด็ก การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ
ตลอดจนการปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี หรือแม้แต่การดูแลจัดการกับความเครียดของพี่เลี้ยงเอง ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากงานหรือพฤติกรรมตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคน
สิ่งที่เราให้ความสำคัญต่อขั้นตอนการคัดเลือกพี่เลี้ยงเด็กนั้น ไม่ใช่เพียงประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กของพี่เลี้ยงเท่านั้น แต่เราจะให้ความสำคัญกับลักษณะพื้นฐานของครอบครัว ทัศนคติ และธรรมชาตินิสัยของบุคคลที่จะทำงานเป็นพี่เลี้ยงกับเราด้วย กล่าวคือ บุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก นอกจากจะต้องมีความรักความอบอุ่นโดยธรรมชาติของนิสัยตนแล้ว ยังจะต้องรู้จักคุณค่าและตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานพี่เลี้ยงเด็กอีกด้วย
ทั้งยังต้องมีความพร้อมที่จะเปิดกว้างรับการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้พี่เลี้ยงทุกคนที่มีประสบการณ์น้อย ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรการฝึกอบรมพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อให้พี่เลี้ยงเกิดความเข้าใจในธรรมชาติของเด็กในแต่ละวัย มีทักษะที่ดีในการดูแลกิจวัตรประจำวันและการดูแลความปลอดภัยของเด็กอย่างเพียงพอ ตลอดจนมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนและคุณค่าของงานที่ทำอยู่ ส่วนพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์สูงก็จะต้องผ่านการฝึกอบรมตามเนื้อหาและระยะเวลาที่แตกต่างกันเช่นกัน เพื่อให้พี่เลี้ยงเด็กของเรามีความพร้อม และมีมาตรฐานในการทำงานอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันทุกคน
วิธีการคัดเลือกพี่เลี้ยงจากประสบการณ์จริงที่เคยใช้เลือกพี่เลี้ยง ดังนี้ค่ะ
ส่องประวัติ ดูแหล่งที่มา มีคนอ้างอิงไหม ถ้าสามารถไปดูถึงที่บ้านภูมิลำเนาบ้านเกิดได้ลุยไปเลยค่ะ ดิฉันก็ไปมาแล้ว ลุยยาวข้ามไป 2-3ประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วค่ะ ถือว่าได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยเลย เพราะเราไม่สามารถรู้เลยว่าอนาคตพี่เลี้ยงที่เราไว้ใจจะยังแสนดี และยังตั้งใจทำงานเลี้ยงลูกเราหรือเปล่า เพราะดิฉันเคยเจอพี่เลี้ยงแบบเห็นว่าลูกเราติดเขา ชอบเขาแล้ว ก็เอาลูกมาเป็นตัวต่อรองกับเราในการขึ้นเงินเดือน ข้ออ้างโน้นนี้ บลาๆ ๆๆ หรืออะไรก็ตามแต่ การมีข้อมูลเยอะๆไว้ก็ย่อมดีกว่าแน่นอนค่ะ
อายุควรอยู่ในวัยทำงาน และมีอารมณ์ที่หนักแน่นมั่นคง ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ดิฉันรู้ว่าจะเลือกพี่เลี้ยงต้องอายุระหว่าง 23-35 ปีค่ะ เพราะร่างกายเขาแข็งแรงดี จะได้มีแรงมาวิ่งตามลูกเราทัน หากอายุมากไปก็จะไม่มีแรงทำงาน หรืออาจะขี้เกียจ หรือถ้าอายุน้อยไปก็จะไม่มีความมั่นคงทาง อารมณ์ คือหงุดหงิดง่าย หรือไม่ก็ดูทีวี คุยโทรศัพท์ (คุยได้ทั้งวัน งงกะเขาจริงๆ )แต่…ข้อนี้ก็อาจจะปรับขึ้นลงได้บ้างขึ้นอยู่กับตอนที่เราสัมภาษณ์และตัวพี่เลี้ยงค่ะ
ในระหว่างที่เราสัมภาษณ์นั้นก็สังเกตว่าเขามีบุคลิกอย่างไร ความสะอาด เสื้อผ้า เล็บมือ ผม และลักษณะเฉพาะตัวของพี่เลี้ยง เช่นขี้อายไหม หรือตาเหล่ หรือเปล่า เพราะพี่เลี้ยงเนี่ยเขาจะอยู่กับลูกเราทั้งวัน เด็กจะเหมือนผ้าขาวจะมีซึมซับลักษณะนิสัย ท่าทางจากพี่เลี้ยงได้ค่ะ ถ้าข้อนี้ไม่ผ่านดิฉันก็จะไม่ดูข้ออื่นต่อเลยค่ะ